รับจดแจ้งลิขสิทธิ์

ความสำคัญและความจำเป็นของการจดลิขสิทธิ์

   ถึงแม้ว่ากฎหมายลิขสิทธิ์จะให้ความคุ้มครองตามกฎหมายแก่ผู้สร้างสรรค์ผลงานทันโดยไม่ต้องจดแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญาก็ตาม หากคุณเป็นเจ้าของผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากความคิดของตัวเอง และไม่ต้องการให้มีใครลอกเลียนแบบหรือนำผลงานของคุณไปทำซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องทำการจดแจ้งลิขสิทธิ์ต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อยืนยันว่คุณเป็นเจ้าของผลงานในงานลิขสิทธิ์ดังกล่าวอย่างแท้จริง เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองทางด้นกฎหมายหากมีใครละเมิดผลงานของคุณ

   ในปัจจุบันนี้ ที่ทคโนโลยีต่างๆ มีความเจริญก้าวหน้าขึ้น ทำให้การสร้างสรรค์ผลงนและเผยแพร่ออกสู่สาธารณะเป็นเรื่องง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นช่องทางที่ทำให้เกิดการลอกเลียนแบบ นำผลงานไปทำซ้ำเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องมีกรจดแจ้งลิขสิทธิ์เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของผลงนแต่เพียงผู้เดียว ละสามรถผลงานไปผลิตเพื่อจำหน่าย ซ้ำหรือดัดแปลง และเผยแพร่ออกสู่สาธารณ์ชนได้ รวมทั้งให้เช่าหรืออนุญาตให้ผู้อื่นใช้ผลงานของตนเองเพื่อให้ได้ค่าตอบแทนที่เหมาะสมในฐานะผู้สร้างสรรค์ผลงาน และยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ผลิตผลงานมีกำลังใจที่จะพัฒนางานของตนเองออกมาให้ดียิ่งขึ้นและมากขึ้น เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่งานของตนเองที่ใช้เวลาในการคิด สร้างสรรค์และทุ่มเทกำลังกายกำลังใจมากมายในการทำ โดนคนอื่น Copy ผลงานไปอย่างง่ายๆ ก็ทำให้คนสร้างสรรค์ผลงานหมดกำลังใจได้อย่างง่ายๆ เช่นกัน

   ผลงานที่สามารถนำไปจดแจ้งลิขสิทธิ์มีอยู่ด้วยกันหลายอย่าง ซึ่งหลักๆแล้วต้องเป็นผลงานที่เกิดจากกรสร้างสรรค์ด้วยตัวของผู้จดลิขสิทธิ์เอง ไม่ว่าจะเป็น งานศิลปะ รรถกรรม นตรี วีดีโอ หรือโสตวัสดุที่มีการบันทึกทั้งภาพและเสียง ภาพยนตร์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ งานต่างๆ ในหมวดของวรรณคดี และศิลปะ เป็นต้น ซึ่งผู้สร้างสรรค์ผลงานจะได้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของผลงานในทันโดยไม่ต้องจดแจ้งลิขสิทธิ์ แต่การจดลิขสิทธิ์ให้ถูกต้องจะเป็นการยืนยันสิทธิ์เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเป็นเจ้าของผลงานเมื่อมีการ Copy งานหรือละเมิดลิขสิทธิ์งานกันเกิดขึ้น

   ลักษณะของการละเมิดลิขสิทธิ์มีตั้งแต่นำไปทำซ้ำและดแปลงเพื่อหากำไร อย่างเช่นนำไปจำหน่าย เผยแพร่ต่อสาธารณชนโดยไม่ได้รับอนุญาตและนำไปแจกจ่ายให้กับผู้อื่นในลักษณะที่ทำให้เจ้าของลิขสิทธิ์เกิดความเสียหายซึ่งในปัจจุบันโทษของการละเมิดลิขสิทธิ์จะอยู่ที่โทษปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท และจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

   ดังนั้น ผู้สร้างสรรค์ผลงานจึงควรจดแจ้งลิขสิทธิ์ผลงนของตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการทำซ้ำและดัดแปลงเพื่อนำไปจำหน่ายและอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยการคุ้มครองลิขสิทธิ์จะอยู่ตลอดช่วงอายุของผู้สร้างสรรค์ผลงานและคุ้มครองต่อเนื่องหลังจากนั้นอีก 50 ปีหลังเสียชีวิต ฯลฯ

คุณสามารถยื่นขอจดแจ้งลิขสิทธิ์ได้ที่รมทรัย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ โดยเตรียมหลักฐานต่างๆ ที่กำหนดไปให้พร้อม และชำระค่าธรรมเนียม เพื่อให้ผลงานของคุณได้รับการคุ้มครองจากกรละเมิดลิขสิทธิ์ จากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เพื่อให้การยืนยันว่าผลงานที่คุณนำไปยื่นขอจดลิขสิทธิ์นั้น เคยมีการสร้างสรรค์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก่อนหรือไม่ และผลงานของคุณมีสิ่งใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือไม่ หากทุกอย่างผ่านไปตามขั้นตอนโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ก็จะได้รับใบลิขสิทธิ์รับรองผลงาน ที่คุณสามารถนำไปยืนยันผลงานของตนเองได้ และยังช่วยป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะเจ้าของผลงานสามารถฟ้องร้องผู้ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ได้อย่างเต็มที่

   ลิขสิทธิ์ หมายความว่า สิทธิแต่ผู้เดียวที่จะกระทำการใดๆ ตามพระราชบัญญัตินี้เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ทำขึ้น (มาตรา 4) ผู้สร้างสรรค์ หมายความว่า ผู้ทำหรือผู้ก่อให้เกิดงานสร้างสรรค์อย่างใดอย่างหนึ่งที่เป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้

  • งานฮันมีลิขสิทธิ์ ได้แก่ งานสร้างสรรค์ 9 ประเภท ตังนี้ (มาตรา 6)

(1.) วรรณกรรม หมายความว่า งานนิพนธ์ทำขึ้นทุกชนิด เช่น หนังสือ จุลสาร สั่งเขียน สั่งพิมพ์ ปาฐกถา เทศนา ปราศรัย สุนทรพจน์ และให้หมายความรวมถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วย

(2.) นาฎกรรม หมายความว่า งานเกี่ยวกับการ การเต้น การทำท่า หรือการแสดงที่ประกอบขึ้นเป็นเรื่องราว และให้หมารวมถึงการแสดงโดยวิธีใบ้ด้วย

(3.) ศิลปกรรม หมายความว่า งานฮันมีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่างตั้งต่อไปนี้

   3.1.งานจิตรกรรม ได้แก่ งานสร้างสรรค์รูปทรงที่ประกอบด้วยเส้น แสง สี หรือสั่งอื่น อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน ลงบนวัสดุอย่างเดียวหรือหลายอย่าง

   3.2.งานประติมากรรม ได้แก่ งานสร้างสรรค์รูปทรงที่เกี่ยวกับปริมาตรที่สัมผัสและจับต้องได้

   3.3.งานภาพพิมพ์ ได้แก่ งานสร้างสรรค์ภพด้วยกรรม วิธีทางการพิมพ์ และหมายความรวมถึงแม่พิมพ์หรือแบบพิมพ์ที่ใช้ในการพิมพ์ด้วย

   3.4.งานสถาปัตยกรรม ได้แก่ งานออกแขบอาคารหรือสั่งปลูกสร้าง งานออกแขบตกแต่งภายในหรือภายนอก ตลอดจนบริเวณของอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง หรือการสร้างสรรค์หุ่นจำลองของอาคารหรือสั่งปลูกสร้าง

   3.5.งานภาพถ่าย ได้แก่ งานสร้างสรรค์ภพที่เกิดจากกรใช้เครื่องมือบันกภพโดยให้แสงผ่านเลนไปยังฟิล์มหรือกระจกและล้างด้วยน้ำยา ซึ่งมีสูตรเฉพาะ หรือด้วยกรรมวิธีใดๆ อันทำให้เกิดภาพขึ้น หรือการปันที่กภาพโดยเครื่องมือหรือวิธีการรอย่างอื่น

   3.6.งานภาพประกอบ แผ่นที่ โครงสร้าง ภาพร่าง หรืองานสร้างสรรค์รูปทรงสามมิติอันเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ ภูมิประเทศหรือวิทยาศาสตร์

   3.7งานศิลปะประยุก ได้แก่ งานที่นำเอางนตาม 3.1 ถึง 3.6 อย่างดอย่างหงหรือหลายอย่างรวมก้นไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นนอกเหนือจากการชันชมในคุณค่าของตัวงานตังกล่าวนั้น เช่น นำไปใช้สอย นำไปตกแต่งวัสดุหรือสั่งของอื่นเป็นเครื่องใช้หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้า

(4) คนตรีกรรม หมายความว่า งานเกี่ยวกับพลงที่แต่งขึ้นเพื่อบรรเลงหรือขับร้องไม่ว่าจะมีท่านเองและร้องหรือมีทำนองอย่างเดียวและให้หมายความรวมถึงโน้ตเพลงหรือแผนภูมิเพลงที่ได้แยกและเรียบเรียงประสานแล้ว

(5.)โสตทัศนวัสดุ หมายความว่า งานอันประกอบด้วยสำดับของภาพโดยบันที่กลงในวัส ไม่ว่าจะมีลักษณะอย่างใด อันสามารถที่จะนำมาเล่นซ้ำได้อีก โดยใช้เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการใช้สดุนั้น และให้หมายความรวมถึงเสียงประกอบงานนั้นด้วย ถ้ามี

(6.) ภาพยนตร์ หมายความว่า โสตทัศนวัสดุอันประกอบด้วยสำดับของภาพงสามารถออกฉายต่อเองได้อย่างภาพยนตร์หรือสามารถบันทึกลงบนวัสดุอื่น เพื่อนำออกฉายต่อเองได้อย่างภาพยนต์ และให้หมายความรวมถึงเสียงประกอบภาพยนตร์นั้นด้วย ถ้ามี

(7.) สิ่งบันทึกเสียง หมายความว่า งานอันประกอบด้วยสำดับของเสียงนตรี เสียงการแสดง หรือเสียงนใด โดยปันทีกลงในวัสดุไม่ว่าจะมีลักษณะใดๆ อันสามารถที่จะนำมาเลนซ้ำได้อีกโดยใช้เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการใช้สนั้น แต่ทั้งนี้มิให้หมายความรวมถึงเสียงประกอบภาพยนตร์หรือเสียง ประกอบโสตทัศนวัสดุอย่างอื่น

(8.) งานแพร่เสียงแพร่ภาพ หมายความว่า งานที่นำออกสู่สาธารณชนโดยกรแพร่เสียงทางวิทยุกระจายเสียง การแพร่เสียงและหรือภาพทางวิทยุโทรทัศน์ หรือโดยวิธีการอื่นอันคล้ายคลึงกัน

(9.) งานอื่นใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ

   สิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์

   เจ้าของลิขสิทธิ์ย่อมมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียว ดังต่อไปนี้

(1.)ทำซ้ำหรือดัดแปลง

(2.)เผยแพร่ต่อสาธารถชน

(3.)ให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนางานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ และสิ่งบันทึกเสียง

(4.)ให้ประโยชน์อันเกิดจากลิขสิทธิ์แก่ผู้อื่น

(5.)อนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิตาม (1) (2) หรือ (3) โดยจะกำหนดเงื่อนไขอย่างใดหรือไม่ก็ไต้ แต่เงื่อนไขตั้งกล่าวจะกำหนดในลักษณะที่เป็นการจำกัดการแข่งขันโดยไม่เป็นธรรมไม่ได้

   การพิจารณาว่าเงื่อนขตามรรคหนึ่ง (5)จะเป็นการจำกัดกรแข่งขันโดยไม่เป็นธรมหรือไม่ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

กฎหมายเริ่มให้ความคุ้มครองผู้สร้างสรรค์งานอันมีลิขสิทธิ์เมื่อไร

   กฎหมายลิขสิทธิ์เริ่มให้ความคุ้มครองผู้สร้างสรรค์งาน นับแต่เมือได้สร้างสรรค์งานอันมีลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย

อายุการคุ้มครองลิขสิทธิ์ (มาตรา 19)

 (1.)กรณีผู้สร้างสรรค์เป็นบุคคลธรรมด ลิขสิทธิ์จะมีตลอดอายผู้สร้างสรรค์ และจะมีต่อไปอีก 50 ปี นับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย

 (2)กรณีเป็นนิติบุคคล ลิสิทธิ์จะมีอายอยู่ 50 ปี นับแต่ไต้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น

 (3.)กรณีมีผู้สร้างสรรค์รวม ลิขสิทธิ์จะมีอยู่ตลอดอายของผู้สร้างสรรค์ร่วม และมีอยู่ต่อไปอีกเป็นเวลา 50 ปี นับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย

   กรณีผู้สร้างสรรค์ร่วมทุกคนตายก่อนโฆษณางาน ให้ลิขสิทธิ์มีอาย 50 ปี นับแต่มีการโฆษณางานเป็นครั้งแรก

การละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27)

   การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชปัญญัตินี้ โดยไม่ไต้รับอนุญาตตามมาตรา 15 (5) ให้ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าไต้กระทำดังต่อไปนี้

(1.)ทำซ้ำหรือดัดแปลง

(2.)เผยแพร่ต่อสาธารณชน

บทกำหนดโทษการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 69 และมาตรา 79)

   กำหนดโทษการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์แก่งนสร้งาสรรค์ประเภทต่างๆ โดยตรง ตามมาตรา 27 และมาตรา 30 เช่น การทำซ้ำหรือดัดแปลง และการ

เผยแพร่งนต่อสาธารณ์ชน โดยไม่ใด้รับอนุญาตจากจ้าของลิขสิทธิ์ เป็นต้น ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สองหมีนบาทถึงสองแสนบาท แต่ถ้ากระทำความผิดเช่นนี้ เป็นการกระทำเพื่อการคำให้ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสีปี้ หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงแปดแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 69)

   กำหนดโทษในการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์แก่งานสร้างสรรค์ ตามมาตรา 31 เช่น การขายหรือเสนอขาย และเผยแพร่ต่อสาธารณชน ซึงงานใดอันละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นต้น ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หงหมึนบาทถึงหนึ่งแสนบาท

   แต่ถ้าการกระทำความผิงกล่าวเป็นการกระทำเพื่อการคำก็ให้างโทษจำคุกตั้งแต่สมเตือนถึงสอง หรือปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

  •     หากท่านมีข้อสงสัยติดต่อทนายคมสันต์ สขกุล เพื่อสอบถาม ค่าบริการ เบอร์โทร. 0-2183-0166, 08-5498-2997 หรือ Line Id : khomsonsukkul ได้ตลอดเวลาทำการครับ
  •    สถานที่ติดต่อ : บริษัท ทนายไซเบอร์ กัด 268/88 ถนนเลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

          เว็บไซด์ : https://www.ทนายไซเบอร์.com

   สอบถามข้อมูล

   เฟสบุ๊คแฟนเพจ