รับสืบทรัพย์ บังคับคดี

     เจ้าหนี้รู้ยัง จ้างทนายสืบทรัพย์ บังคับคดี มีโอกาสได้เงินคืนมากกว่า

    “หนี้สูญ” ค่นี้มันบาดใจเจ้าหนี้อย่างที่สุด เงินหรือทรัพย์สินที่มีคนอื่นมาหยิบยืมไป แล้วเกิดการชักดาบ หายเงียบเหมือนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แน่นอนว่าเจ้าหนี้ย่อมไม่อยู่เฉย ต้องพยามยามเสะแสวงหาหนทางและโอกาสที่จะทำให้ใด้เงินในส่วนนี้คืน แต่ถ้ามันไม่มีจริงๆ ก็ยังมีอีกช่องทางในการได้มาซึ่งผลตอบแทนจากการปล่อยเงินกู้ นั่นคือการว่าจ้างทนายฟ้องคดีต่อศาลเพื่อให้ศาลเป็นคนช่วย ถ้าลูกหนี้ผู้หายหน้าหายตาไปไม่สามารถชำระหนี้ให้ได้ตามข้อตกลง ก็อาจจะต้องพึ่งอำนาจศาลในการยึดทรัพย์บังคับคดีกับลูกหนี้ตามกฎหมายต่อไป

    การยึดทรัพย์บังคับคดี เป็นทางออกที่ดีทางหนึ่งสำหรับเจ้าหนี้ที่ต้องการได้เงินในส่วนของตัวเองคืน ถ้าในกรณีการกู้แบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกันย่อมง่ายในการยึดทรัพย์บังคับคดี พราะมันจะมีผลบังคับใช้โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่ถ้าในกรณีที่ไม่มีการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเจ้าหนี้สามารถสืบทรัพย์ และร้องขอต่อศาลให้มีการยึดทรัพย์ได้เช่นกัน แต่ในกรณีหลังมันไม่ได้ง่ายดายเหมือนไฟแนนซ์ยึดรถ เพราะมันมีเงื่อนไขอื่นๆเข้ามาประกอบด้วยมากมาย

    การว่าจ้างทนายสืบทรัพย์บัคับคดี เป็นทางเลือกที่ดีที่สุในกรณีตั้งกล่าวข้างต้น หลายคนมอง ว่าเจ้าหนี้ก็แค่ยึดทรัพย์ ไม่ว่าลูกหนี้จะมีสมบัติอะไร เจ้าหนี้ก็บุกเข้าไปยึดเอามาเป็นของตนองได้เลยโดยไม่ต้องไปฟ้องศาลให้เสียเวลา เสียทนาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว การกระทำแบบนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ไม่ต่างอะไรกับโจรปล้น ถ้ำเจ้าหนี้ไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นโจร หรือเป็นคนขี้โกง การว่าจ้างทนายฟ้องศาล และสืบทรัพย์บังคับคดี เป็นการกระทำภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมายโดยผู้มีความรู้ด้านนี้โดยตรง อีกทั้งทนายที่ดีและเก่งจะเป็นคนขี้ให้เจ้าหนี้ใด้เห็นถึงความคุ้มค่าในการสืบทรัพย์ ยึดทรัพย์ของลูกหนี้เจ้าหนี้จะได้มาซึ่งทรัพย์สินของลูกหนี้ที่คุ้มค่า และให้ผลตอบแทนสูงสุด ที่สำคัญการกระทำเหล่านี้ยังชอบด้วยกฎหมายอย่างไม่ต้องมีข้อกังขา เพราะคนที่เจ้าหนี้ว่าจ้างเป็นทนายซึ่งเป็นผู้รู้กฎหมาย และวิธีการใช้กฎหมายเพื่อให้มีผลดีที่สุดกับลูกความซึ่งในกรณีนี้ก็หมายถึงเจ้าหนี้นั่นเอง

    ทนายที่ทวงนี้และสืบทรัพย์บังคับคดีแทนลูกความของตน เมื่อปฏิบัติตามกรอบของกฎหมายย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายทุกประการแม้แต่กฎหมายทวงหนี้ฉบับใหม่ก็ยังมีระบุตอนท้ายให้ทนายทำงานได้ง่ายขึ้นว่า ไม่รวมถึงการทวงหนี้ของทนายซึ่งกระทำแทนลูกความของตน ด้วยการระบุในตัวกฎหมายแบบนี้นี่เอง จึงเป็นการบอกให้เราทราบกลายๆ ว่าทนายสามารถทำอะไรกับลูกหนี้ตัวร้ายได้มากกว่าเจ้าหนี้ทำเอง นั่นอาจหมายรวมถึง การทวงหนี้และการสืบทรัพย์บังคับคดีในแบบที่พิเศษกว่าคนธรรมตา แต่ก็ยังชอบด้วยกฎหมายอยู่ดี สั่งเหล่านี้ขอบอกว่ามันเป็นเรื่องเฉพาะทางจริงๆ ทนายย่อมรู้ดีว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ใด้ อะไรควรทำ หรืออะไรไม่ควรทำ ฉะนั้น ทางอกที่ดีที่สุดของเจ้าหนี้ คือการว่าจ้างทนายเก่งฯ ซักคนที่เชื่อถือได้ ยิ่งเชี่ยวชาญเฉพาะทางนี้รับรองได้ว่าเงินทองของเจ้าหนี้จะไม่สูญเปล่าไปกับสายลมอย่างแน่นอน

    บริษัท ทนายไซเบอร์ จำกัด ให้บริการรับสืบทรัพยั บังคับคดี ตามคำพิพากษาของศาล สืบ หาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของลูกหนี้ สืบหาธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน หุ้น หรือหลักทรัพย์ของลูกหนี้ สืบหาบัญชีเงินฝากของลูกหนี้ สามีหรือภริยาของลูกหนี้ เพื่อดำเนินการยึดหรืออายัดเงินหรือทรัพย์สินของลูกหนี้ออกขายทอดตลาดและนำ เงินมาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป (ศาลตัดสินคดีแล้ว)

(1.) การสืบทรัพย์บังคับคดี มีขั้นตอนดังนี้

1.1 ขั้นตอนการสืบทรัพย์ของลูกหนี้

    ทนายนำส่งคำบังคับให้จำเลยชำระหนี้ตามคำพิพากษาและออกหมายตั้งเจ้าพนักงาน บังคับคดีเพื่อดำเนินการยึดทรัพย์ลูกหนี้ตามคำพิพากษา พร้อมคัดถ่ายคำพิพากษาของศาล (รับรองสำเนา),คำบังคับ,หมายบังคับคของศาลเพื่อประกอบการตทรัพย์ของจำเลยต่อไป

1.1.1 สืบหาเงินในบัญชีลูกหนี้หรือตัวแทนลูกหนี้ตามบัญชีเงินฝากธนาคาร หรือลูกหนี้มีหุ้น หุ้นกั พันธบัตรรัฐบาล หรือฉลากออมสินอยู่ที่ใดหรือไม่

1.1.2 สืบหาว่าลูกหนี้มีสิทธิเรียกร้องจากลูกหนี้ของลูกหนี้หรือไม่ เช่น ลูกหนี้มีลูกหนี้อื่นที่ต้องชำระเงินแก่ลูกหนี้หรือไม่ (ลูกหนี้ของลูกหนี้) เพื่อที่เจ้าหนี้จะได้ดำนินการใช้สิทธิเรียกร้องของ ลูกหนี้ตามกฎหมายต่อไป

1.1:3 สืบหาว่าลูกหนี้มีทรัพย์สินที่เป็น สังหาริมทรัพย์หรือไม่ เช่น รถยนต์, ทรัพย์สินที่เป็นเครื่องใช้สำนักงาน, เครื่องจักร เป็นตัน

1.1.4 สืบหาว่าลูกหนี้มีทรัพย์สินที่เป็น อสังหาริมทรัพย์หรือไม่ เช่น ที่ดิน, สิ่งปลูกสร้าง, อาคาร, สำนักงาน เป็นต้น

1.1.5. สืบหาว่าลูกหนี้มีทรัพย์สินอันมีมูลค่าหรือไม่ เช่น ลูกหนี้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์, สิทธิบัตร, เครื่องหมายการค้า เป็นต้น

1.1.6 สืบหาทรัพย์สินที่ลูกหนี้ได้โอนทรัพย์สินให้กับบุคคลอื่นในระหว่างที่เป็น หนี้เจ้าหนี้หรือไม่ เช่น ลูกหนี้มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินให้ กับบุคคลอื่นโดยมีเจตนาไม่ยอมชำระ หนี้ให้แก่เจ้าหนี้ ทั้งนี้ เพื่อเจ้าหนี้จะใด้ดำเนินการฟ้องเพิกถอนนิติกรรมที่ลูกหนี้ โอนทรัพย์สินให้ กับบุคคลอื่น หรือฟ้องลูกหนี้ในข้อหาโกงเจ้าหนี้ตามกฎหมายต่อไป

1.2 ขั้นตอนการบังคับคดีลูกหนึ้

เมื่อสืบทรัพย์พบทรัพย์สินของลูกหนี้อย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อ 2. แล้ว ทนายจะต้องต่ำเนินการบังคับคดี งมีรายละเอียดต่อไปนี้

1.2.1 กรณีทรัพย์สินของลูกหนี้เป็น สังหาริมรัย์ เช่น รถยนต์, เครื่องจักร, เรื่องใช้สำนักงาน ฯลฯ ทนายจะนำเจ้าพนักงานบังคับคดีออกไป ยึดทรัพย์สินดังกล่าว ณ สถานที่ทรัพย์ตั้งอยู่ และจะดำเนินการนำทรัพย์สินตังกล่าวออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้ แก่เจ้าหนี้ต่อไป

1.2.2 กรณีทรัพย์สินของลูกหนี้เป็น อสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน, สิ่งปลูกสร้าง, อาคาร, สำนักงาน ฯลฯ ทนายจะดถ่ายเอกสารจากสำนักงาน ที่ดิน พร้อมทำแผนที่ ถ่ายรูป ราคาประเมิน นำมาตั้งเรื่องยืดทรัพย์ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อให้ดำเนินการขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ต่อไป

1.2.3 กรณีทรัพย์สิของลูกหนี้เป็น บัญชีเงินฝากธนาคาร เช่น ลูกหนี้ฝากเงินไว้กับธนาคารใดธนาคารหนึ่ง เจ้าพนักงานบังคับดีจะทำการอายัดเงินดังกล่าวโดยส่งหนังสือไปยังธนาคารให้ นำส่งเงินให้กับเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อให้เจ้าหนี้มารับเงินต่อไป

1.3 ขั้นตอนการขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้

    ในการขายทอดตลาดจะเป็นการขายทรัพย์สินของลูกหนี้โดยเจ้าพนักงานบังคับคดีที่จะ ต้องมีการประมูลขาย การต่อสู้ราคา การคัดค้านราคาขายของเจ้าพนักงานบังคับคดี ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวทนายมีหน้าที่เป็นผู้ดูแลการขายทอดตลาดเพื่อไม่ให้ เจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบในการขายทอดตลาดทรัพย์ของลูกหนี้ และรักษาผลประโยชน์ของเจ้าหนี้อย่างเต็มที่ เป็นตัน

  •     หากท่านมีข้อสงสัยติดต่อทนายคมสันต์ สขกุล เพื่อสอบถาม ค่าบริการ เบอร์โทร. 0-2183-0166, 08-5498-2997 หรือ Line Id : khomsonsukkul ได้ตลอดเวลาทำการครับ
  •    สถานที่ติดต่อ : บริษัท ทนายไซเบอร์ กัด 268/88 ถนนเลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

          เว็บไซด์ : https://www.ทนายไซเบอร์.com

   สอบถามข้อมูล

   เฟสบุ๊คแฟนเพจ